กิเลสเหล่านี้จะมีอธิพลต่อเรา ในแต่ละคนไม่เท่ากันครับ ใครปล่อยให้อารมณ์พุ่งนำเหตุผล ยิ่งทำให้กิเลสเหล่านี้เข้าครอบงำและควบคุมตัวเราไว้ คนไหนควบคุมและกำจัดอารมณ์ออกไปได้ กิเลสย่อมยากที่จะเข้าทำร้ายคนนั้นได้ เราต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมและจัดการกับสิ่งเหล่านี้ครับ
ในโลกของการลงทุนมีกิเลสที่พูดถึงกันอยู่ 2 ตัวได้แก่ "ความโลภ" และ "ความกลัว" กิเลสสองตัวนี้สร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นกับตลาดหุ้นมากมาย ทำให้เกิดวัฏจักรของการลงทุนขึ้น
มีความหวัง > โลภ > ชักสงสัย > เริ่มกลัว > ตกใจ > สิ้นหวัง > มีความหวัง ...
ขอบคุณภาพจาก : CBSNEWS
จากภาพบอกอะไรเราได้หลายอย่างครับ การขึ้นลงของตลาดก็อยู่ที่กิเลสของคนที่อยู่ในตลาดนั้นเองครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนสด ๆ ร้อน ๆ เลยก็ตลาดหุ้นบ้านเรานี่เองครับ SET ลดระดับลงมา จากจุดสูงสุด 1601.34 จุด ลงมาต่ำสุด 1464.72 จุด ใช้เวลาเพียงแค่ 4 วันเท่านั้น อย่างกับว่ากิจการต่าง ๆ กำลังจะเจ๊ง คงปฎิเสธไม่ได้หรอกว่า มันมาจากกิเลสทั้งนั้น
จากข่าวเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ 2-3 เดือนมีการเปิดบัญชีหลักทรัพย์เพื่อซื้อขายหุ้นใหม่กว่า 40,000 บัญชีซึ่งเยอะมาก (การคาดการณ์ปกติทั้งปีประมาณ 100,000 บัญชี) คงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า เมื่อเห็นตลาดหุ้นขาขึ้นคนเราก็เกิดความโลภ ทำให้ยอดเปิดบัญชีเยอะขนาดนี้ แล้วพอเห็นปรากฎการณ์แบบสัปดาห์ที่ผ่านมา แน่นอนคงได้ยินเสียงโอดครวญกันบ้าง อีกสักหน่อยก็คงประวัติศาสตร์ซ้ำรอย กล่าวหาว่า "ตลาดหุ้นก็เหมือนการพนัน"
เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ ถ้าเรามีระบบ มีการจัดการกับอารมณ์ ไม่ปล่อยให้กิเลสเข้าครอบงำ มีวินัยในการลงทุน มีการบริหารเงินที่ดี เชื่อแน่ว่าต้องประสบกับความสำเร็จครับ แม้จะขาดทุนบ้าง ล้มเหลวบ้าง ขอแค่ลุกขึ้นมา ใช้ประสบการณ์ให้เป็นบทเรียน สมการของความสำเร็จง่าย ๆ ครับ
จำนวนครั้งที่ล้ม = จำนวนครั้งที่ลุก
เด็ดมากเพื่อนเรา
ตอบลบแนะนำ ติชม อยากให้ปรับเปลี่ยนอะไร เสนอมาได้เบยนะ ^^
ลบ